หวยเด็ด!.. เมืองบาดาล เบอร์ 1 แห่ง อีสาน ตอนล่าง ถ้ำนาคาธิบดี
วันนี้เราจะมาพูดถึง แหล่งหวยเด็ด เมืองบาดาลกันครับ นั่นก็คือ ถ้ำวังนาคาธิบดี ตั้งอยู่ใน วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม ต.โคกจาน อ.อุทุมพรพิสัย จ.ศรีสะเกษ ถ้ำนาคาธิบดี หรือ วังพญานาค ที่สร้างขึ้นตามตำนาน ขององค์พญานาคาธิบดี ทั้ง 9 พระองค์ อันได้แก่ 1.พญาอนันตนาคราช, 2.พญามุจรินทร์นาคราช, 3.องค์พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราช, 4.พญาเกล็ดแก้วนาคราช, 5.พญาภุชงค์นาคราช, 6.พญานาคดำศิริจันทรานาคราช, 7.พญายัสมัญนาคราช, 8.พญาคัตระศรีเทวานาคราช, 9.พญาศรีสัตตนาคราช และยังเป็นแหล่ง ขอหวย ขอขา หวยเด็ด อีกด้วย
พญานาคาธิบดี ทั้ง 9
1.พญาอนันตนาคราช เราจะคุ้นกับท่านใน ภาพลักษณ์ ของ พระนารายณ์บรรทมสินธุ์ พญานาค ที่เราเห็นเป็น ฐานให้พระนารายณ์บรรทมนั้นคือ ท่าน นั่นแหละ ส่วนตำนานของท่านนั้น ว่ากันว่า ท่านคือ พญานาคองค์แรก ซึ่ง เป็น พี่ใหญ่สุดใน บรรดาเหล่า พญานาค และ มีถึง 1,000 เศียร เป็น โอรสองค์แรกของฤาษีกัศยปะ และ นางกัทรุ และได้เป็น คู่ อริกับพญาครุฑ อีกด้วย
2.พญามุจรินทร์นาคราช ท่านคือผู้แผ่พัง บังฝนที่ตกลงมาถึง 7 วัน 7 คือ ให้แก่ พระพุทธเจ้า หลังจากฝนหยุดแล้ว ท่าน ก็คลายขนดจำแลงกายเป็นมานพ เข้าไปถวายอัญชลีเฉพาะพระพักตร์ แพญามุจรินทร์ นั้นเป็นผู้ที่มีความศรัทธา ในพระพุทธศาสนาเป็นอย่างมา และ ในเรื่องราวขอพระพุทธศาสนา แต่ละเรื่อง นั้นมักจะมีชื่อท่านเกี่ยวข้องเสมอ
3.องค์พญานาคาธิบดีศรีสุทโธนาคราช ที่รเรารู้จักกันดีคือ ป่าคำชะโนด หรือ วังนาคินทร์ อำเภอบ้านดุง จังหวัดอุดรธานี นั่นเอง ครับ ท่านมีวรกายสีเขียวมรกต เศียรสีทอง มีเมตตาสูงต่อผู้ที่มากราบไหว้บูชา หากใครที่ได้อธิษฐานจิตขอในสิ่งที่ไม่เบียดเบียนผู้อื่นก็จะสัมฤทธิ์ผล ท่านเป็นมหาเทพนาคาผู้ยิ่งใหญ่ สามารถแผลงเศียรได้ 9 เศียร ส่วนองค์นางพญาศรีปทุมมานาคิณีผู้เป็นชายา สามารถแผลงเศียรได้ 5 เศียร ทั้งสององค์นั้นโปรดปรานการฟังธรรมจากพระอริยสงฆ์เป็นอย่างมาก ท่านเป็น เป็นกษัตริย์พญานาคฝั่งไทย ท่านได้ครอง เมืองหนองกระแสครึ่งหนึ่ง และ อีกครึ่งหนึ่งเป็นพญานาค เช่น เดียวกันปกครองมีชื่อว่า พญาสุวรรณนาคราช ทั้งสองฝ่ายอยู่ร่วมกัน ด้วยความรัก ความสามัคคี แต่มีข้อตกลงกันอยู่ข้อหนึ่งว่า ถ้าฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดออกไปหากินล่าเนื้อหาอาหารอีกฝ่ายหนึ่งไม่ต้องออกไปล่าเนื้อหาอาหารเพราะเกรงว่าบริวารไพร่พลจะกระทบกระทั่งกัน อาหารที่หามาได้แบ่งกันกินฝ่ายละครึ่ง อยู่มาวันหนึ่ง สุวรรณนาคพาออกไปหาอาหารได้ช้างมาเป็นอาหาร ได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่ง วันต่อมาอีกวันหนึ่งสุวรรณนาคได้พาบริวารไพร่พลออกไปล่าเนื้อ หาอาหารได้เม่นมา สุวรรณนาคได้แบ่งให้สุทโธนาคครึ่งหนึ่งเหมือนเดิม พร้อมทั้งนำขนของเม่นไปให้ดู ปรากฎว่าเม่นตัวเล็กนิดเดียว แต่ขนของเม่นใหญ่ เม่นตัวเล็กเมื่อแบ่งเนื้อเม่นให้สุทโธนาคจึงต้องแบ่งให้น้อยสุทโธนาคได้พิจารณาดูขนเม่นเห็นว่าขนาดขนช้างเล็กนิดเดียวตัวยังใหญ่โตขนาดนี้ แต่นี้ขนใหญ่ขนาดนี้ จะต้องใหญ่กว่าช้างอย่างแน่นอน จึงให้เสนาอำมาตย์นำเนื้อเม่นที่ได้รับส่วนแบ่งครึ่งหนึ่งไปคืนให้สุวรรณนาคพร้อมกับฝากบอกไปว่า “ไม่ขอรับอาหารส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม ฝ่ายสุวรรณนาคเมื่อได้ยินดังนั้น จึงได้รีบเดินทางไปพบสุทโธนาคเพื่อชี้แจงฝ่ายสุทโธนาคซึ่งมีความโกรธ อยู่แล้ว จึงประกาศศึกทันที และได้รบกันถึง 7 ปี จนทำให้ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่บริเวณหนองกระแสเกิดความเสียหาย เดือดร้อน ไปทั้งสามภพ จากนั้น พระ อินทราธิราชผู้เป็นใหญ่ทราบเรื่อง จึงต้องหาวิธีหยุดพญานาคทั้งสอง จึงให้พญานาคทั้งสองพากันสร้างแม่น้ำคนละสายออกจากหนองกระแส ใครสร้างถึงทะเลก่อนจะให้ปลาบึก ขึ้นอยู่ในแม่น้ำแห่งนั้น และให้ถือว่าการทำสงครามครั้งนี้มีความเสมอกัน เพื่อป้องกันการทะเลาะวิวาทของพญานาคทั้งสอง ให้เอาภูเขาพญาไฟ เป็นเขตกั้นคนละฝ่าย ใครข้ามไปราวีรุกรานกันขอให้ไฟจากภูเขาดงพญาไฟไหม้ฝ่ายนั้นเป็นจุลมหาจุล จากนั้นทาง สุทโธนาคจึงสร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศตะวันออก และ คดคียวไปตามแนวภูเขา แม่น้ำนี้เรียกชื่อว่า “แม่น้ำโขง” คำว่า “โขง” จึงมาจาคำว่า “โค้ง”ด้านสุวรรณนาค สร้างแม่น้ำมุ่งไปทางทิศใต้ และคิดว่าหากสร้างตรงๆ จะทำให้ถึงจุดหมายปลายทางก่อน แม่น้ำนี้เรียกชื่อว่า “แม่น้ำน่าน” แม่น้ำน่านจึงเป็นแม่น้ำที่มีความตรงกว่าแม่น้ำทุกสายในประเทศไทย การสร้างแม่น้ำแข่งกันในครั้งนั้น ปรากฎว่าสุทโธนาคสร้างแม่น้ำโขงเสร็จก่อนตามสัญญาของพระอินทร์ สุทโธนาคเป็นผู้ชนะ จากนั้น ปลาบึกจึงต้องขึ้นอยู่แม่น้ำโขงแห่งเดียวในโลก
4.พญาเกล็ดแก้วนาคราช หรือ พญาเพชรภัทรนาคราช ท่านคือโอรสบุตร เพียง พระองค์เดียว ขององค์พญาอนันตนาคราช และ พระนางอุษาอนันตวดีแต่ และ ทรง มี พระ ขนิษฐา และ อนุชา ต่างพระมารดามากทรงเป็น โอปาติกะจุติ พระวรกายของท่านนั้เป็น สีทอง ตามพระมารดาท่าน ซึ่งเป็น นาคินีเทวี ตระกูลวิรูปักษ์ ท่านแผ่พระเศียรแสดงบารมีได้ 9 เศียร และ ทรงเชี่ยวชาญในการรบมาก เมื่อครั้งสงครามเทวะคราต่างๆ พญาเพชรภัทรจะทรงเป็น 1 ในแม่ทัพใหญ่นำรบเสมอ ทรงได้รับประธานพระขรรถ์วิเศษจากฤษีเทพอัศดร
5.พญาภุชงค์นาคราช เจ้าวิสุทธิเทวา ซึ่งเป็นพญานาคราชประจำองค์พระศิวะเทพ หรือ พระอิศวรเจ้า มีพระวรกายเป็นสีเทาฮินดู มีพระเศียรเป็นสีแดง 7 เศียร และ มีพระอัครมเหสี คือ พญานาคิณีเทวีศรีปางตาล ซึ่งเป็นพญานาคิณี ประจำองค์แม่พระอุมาเทวี ซึ่งเป็น มเหสีของพระศิวะ ท่านมีอุปนิสัยตรงไปตรงมา รูปร่างสง่างาม ท่านชอบศึกษาธรรมเป็นนิสัย หลังจากที่ท่าน ได้สละจากกษัตริย์แล้ว ท่านได้บำเพ็ญตบะเป็นฤๅษี มาจนถึงทุกวันนี้
6.พญานาคดำศิริจันทรานาคราช ทรงเป็นพระราชโอรส ของพญาศรีสัตตะนาคราช กษัตริย์ฝั่งโขง 1 ในนาคาธิบดีทั้ง 9 ท่าน มีพระวรกายสีดำอมส้มองค์นี้มีหอกทองคำปลายเป็นเพชร เป็นอาวุธ มีความเก่งกาจมาก อีกทั้งทั้งยังมีคุณธรรม คุณงามความดี
7.พญายัสมัญนาคราช พระนามเต็ม พญายัสมันรายะนาคราช เป็น พระราชโอรสในพญาอนันตนาคราช มี เจ้านางสรัอยแสงคีรี ตระกูลวิรูปักษ์
ทรงเป็นพระอนุชา สหายร่วมรบกับพญาเพชรภัทรนาคราช พญาภาคินทร์นาคราช อีกทั้ง พญานฤบดินทร์นาคราช พญายัสมันนาคราช เจ้านั้น เก่งวิชาทางรบ มนต์นาวี มีเทพเจ้าแห่งสมุทรประสิทธิวิชาใหั ถ้าว่าด้วยเรื่องรบโดยพลังแห่งน้ำแล้ว ท่านถือเป็นเอกในด้านนี้ ทรงมีความดีความชอบ ต่อสู้กับเพชรพญาธรอัคคี ซึ่งไปลักลอบขโมยตำราจากหอมนตรา ของปู่ฤษีสีหโคดม และก่อกองกำลังคนธรรพ์ ยึดครองเมืองพญานาคใหญ่นัอยถึง 4 เมือง เป็นบัญชาในท้าวสักกะเทวราช ให้พญายัสมันนาคราชยกทัพไปจัดการ เมื่อชนะศึกในครานั้น จึงได้ทรงยกย่องท่านนั้นเป็น 1 ใน 9 องค์นาคาธิบดี
8.พญาคัตระศรีเทวานาคราช ซึ่งมีความต่างจากพญานาคราชท่านอื่น ท่านนี้ไม่ได้มีวังบาดาลที่อยู่ในน้ำ แต่มีวังที่อยู่บนปราสาท ซึ่งตั้งอยู่บนผืนดิน ดังนั้น พญานาคองค์นี้มีลำตัวสีน้ำตาลเข้ม เหมือนสีของดิน ณ เขาพนมกุเลน ซึ่งเป็นดินแดนศักดิ์สิทธิ์ที่เต็มไปด้วยเหล่าเทพที่มีฤทธิ์ และเหล่าฤาษี โยคีที่มีตบะแก่กล้า มาบำเพ็ญเพียรเป็นเวลาหลายพันปี ได้มีชายหนุ่มสองพี่น้องเป็นคนตัดไม้ ได้เดินทางมายังเขาพนมกุเลนเพื่อตัดไม้และหาของป่า คนพี่ชื่อ “ครรตะ” ส่วนคนน้องชื่อ “สุริยัน” ทั้งสองรักกันมาก มีอะไรก็แบ่งปันกัน จนวันหนึ่งขณะแยกย้ายกันหาของป่าในเขาพนมกุเลน ทั้งสองได้เกิดพลัดหลงกัน ต่างตามหากันไม่พบ เพราะหลงไปในป่ามนต์ที่เกิดจากฤทธิ์ของโยคี ทั้งสองหากันหลายวันแต่ไม่พบ สุริยันผู้น้อง ได้อธิษฐานต่อเทวดาองค์หนึ่งให้ช่วย และได้มีเสียงดังมาว่า จะช่วยให้เจอ แต่จะถวายสิ่งใดเป็นการตอบแทน คือสร้างศาลบูชาท่านให้ และดลใจให้ทั้งสองได้เจอกัน และ ได้ทำตามสัจจะแก่เทวดา โดยสร้างศาลให้
เมื่อสองพี่น้องได้สร้างศาลถวายเสร็จ เทวดาองค์นั้นมาปรากฏและกล่าวขอบใจ แต่ท่านมีวิมานอยู่แล้วไม่ได้อยู่ในศาลนี้ เทวดาท่านนี้คือ พระวิษณุ ทั้งสองว่า หากชาติหน้าเกิดใหม่ได้จะเกิดเป็นใคร คนน้องสุริยันบอกว่า หากเกิดชาติหน้าจะขอติดตามรับใช้พระวิษณุ ณ วิมานของท่าน ส่วนคนพี่ จะขอเกิดมาเป็นเทวดาบำเพ็ญบารมีที่พนมกุเลนนี้ พระวิษณุจึงให้พรเป็นไปตามนั้น ต่อมาทั้งสองใช้ชีวิตในพนมกุเลน มีการปฏิบัติธรรมจนถึงวัยชรา จากน้ันก็ ตายจากไป พรที่เคยขอไว้จึงสัมฤทธิ์ผล คนพี่ ครรตะ มาเกิดเป็นเทวดาในขาพนมกุเลนสถานที่เดิม มีนามว่า ครรตะศรีเทพบุตร และมีอาวุธวิเศษติดมาด้วย คือ ขวานวิเศษ เป็นสุดยอดอาวุธที่มีอานุภาพร้ายแรงที่พระวิษณุประทานให้เป็นรางวัล ส่วนคนน้อง ได้ไปรับใช้พระวิษณุ จึงได้ไปเกิดเป็นพญานาค ณ ท้องมหาสมุทร และรับใช้พระวิษณุ ณ เกษียรสมุทร มีนามว่า “สุริยคุปต์” โดยมีชุดเกราะสุริยัน อันเป็นเกราะทิพย์ที่พระวิษณุประทานให้
9.พญาศรีสัตตนาคราชเป็นหนึ่งในพญานาคผู้มีฤทธิ์ ทรงศักดาอานุภาพ นามของพญาศรีสัตตฯ นี้ก็ปรากฏพบในตำนานอุรังคธาตุเช่นกันความดังนี้ พระศาสดา ก็เสด็จไปสู้ดอยนันทกังรี ซึ่งเป็นที่อยู่ของนางนันทยักษ์แต่ก่อน มีนาคตัวหนึ่ง 7 หัว ชื่อว่าศรีสัตตนาค เข้ามาทูลขอให้พระศาสดาทรงย่ำรอยพระบาทไว้ ณ ที่นั้น ทรงก้าวพระบาทข้ามตีนดอยก้ำขวาแล้วทรงแย้มพระโอฐ เจ้าอานนท์กราบทูลถาม ตถาคตตรัสว่า เห็นนาค 7 หัวเป็นนิมิตร ภายหน้าที่นี้จงบังเกิดเป็นเมือง มีชื่อว่าเมืองศรีสัตตนาค
ข้อมูลรน่ารู้
สถานที่นี่คือวัดทุ่งสิมเดิม ขณะนี้มีการก่อสร้าง ให้เป็นแหล่งเรียนรู้เชิงพระพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพระมหาเจดีย์ เพื่อน้อมถวายเป็นพระราชกุศล ในรัชกาลที่10 มีการจำลองรูปแบบให้คล้ายตั้งอยู่บนเขาพระสุเมรี เป็นเจดีย์ สูง 59 เมตร รวม 5 ชั้น ชั้นที่ 1 และ 2 ใช้ประกอบศาสนกิจ ชั้นที่ 3 เป็นอุโบสถ์ สำหรับทำสังฆกรรม และเป็นพิพิธภัณฑ์มหาราช จัดแสดงพระราชกรณียกิจของพระมหากษัตริย์ทุกพระองค์ และพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านของจังหวัดศรีสะเกษ ชั้นที่ 4 บรรจุพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุของพระอรหันต์ ชั้นที่ 5 บรรจุ พระบรมสารีริกธาตุขององค์สมเด็จสัมมาสัมพุทธเจ้า พระครูวิจิตรวินัยคุณ เจ้าอาวาสและพุทธศาสนิกชนร่วมกันจัดสร้างขึ้นเพื่อเป็นสถานที่บรรจุพพระบรมสารีริกธาตุที่อัญเชิญมาจากประเทศอินเดีย รวมถึงพระเกศาธาตุและพระอัฐิธาตุของพระอรหันต์ และใช้เป็นสถานที่ประกอบศาสนกิจ เพื่อสืบทอดศาสนา บรรยากาศในถ้ำนาคาธิบดีแห่งนี้จะสัมผัสได้ถึงความเงียบสงบและน่าเลื่อมใส มีพระพุทธรูปและองค์พญานาคอยู่รายล้อมภายในถ้ำ ให้พุทธศาสนิกชน ได้เข้ามากราบไหว้สักการะกัน
สรุป วัดป่าศรีมงคลรัตนาราม
วัดแห่งนี้เปิดทุกวัน 08.00-17.00
คอ หวยเด็ด เลขดัง เลขเด็ด ขาคำนวน สูตรหวย ห้ามพลาด
เนื้อหาที่เกี่ยวข้อง
- รวมเลขเด็ด..! วัดพระธาตุหนองบัว 1 ในวัดศักดิ์ที่คนอุบลฯต้องรู้จัก
- เลขเด็ด! สัมผัสได้… วัดภูตะเภาทอง แหล่ง หวยดัง จากพญานาคผู้ยิ่งใหญ่อันดับ 1
- หวยดัง.. ปัง! ทุกคนที่มากราบไหว้ วัดรอยพระพุทธบาทภูมโนรมย์ อันดับ 1 ในมุกดาหาร
- เลขเด็ดปู่เสือ (ศาลปูเสือสมิงพราย รามอินทรา) ปาฏิหาริย์สิ่งศักดิ์สิทธิ์ให้โชคเงินแสน หวยเด็ดที่สุด